ทริปอิตาลี 2018 เราจะเริ่มเที่ยวจากเวนิส - มิลาน - ฟอเรนซ์ - ปิซา - ชิงเคว่ เทอเร่ และไปจบที่กรุงโรม รวมระยะเวลาทั้งหมด 7 วัน 6 คืน เน้นไปตามแลนมาร์ค ที่เที่ยวฮิตๆ ของอิตาลีที่คนชอบไปกัน Blog ในซีรี่ส์อิตาลีนี้น่าจะมีประมาณ 10 Ep. แล้วก็จะมีรีวิวโรงแรมที่พักในอิตาลีอีก 3 ที่ จะพยายามหาเวลามารีบทำแล้วกันเนอะ

ทริปนี้เราใช้บริการสายการบิน ASIANA รูทใหม่ปี 2018 บินตรงโซล-เวนิส แต่เราอยู่ญี่ปุ่น เลยต้องเริ่มต้นเดินทางจากสนามบิน Haneda กรุงโตเกียว 6 โมงเช้า ไปต่อเครื่องที่สนามบิน Incheon กรุงโซล เครื่องออกไปเมืองเวนิส 10 โมงครึ่ง ถึงเวนิสเวลาบ่าย 3 กว่าๆ ไฟล์ตเวลาดีมาก ไม่เสียเวลาต่อเครื่องนาน 

เครื่องบินของสายการบิน ASIANA ค่อนข้างเก่า แต่ที่นั่งชั้นอีโค่แอบกว้าง รู้สึกว่านั่งสบายดี ไม่คับแคบ ถ้าเทียบกับที่นั่งชั้นอีโค่ของเครื่องบินรุ่นใหม่ๆ ของสายการบินอื่นๆ อาหารที่เสิร์ฟก็ดี รสจัดถูกปากชาวเอเชียนแน่นอน เพราะทุกมื้อมีซอสเกาหลี โคชูจัง ไว้ให้เติมความแซ่บกันได้ตามอัธยาศัย

พอถึงสนามบิน Marco Polo (VCE) เมืองเวนิสแล้ว ก็ผ่าน ตม. ใช้เวลาไม่นานไม่น่าจะเกิน 30 นาที ประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซาเชงเก้นอย่างคนเกาหลี ญี่ปุ่นก็แยกไปใช้ช่องอัตโนมัติ ส่วนคนไทยหรือคนที่ต้องใช้วีซ่าเข้าประเทศก็แยกไปอีกแถว ไปเจอหน้า ตม. ตามปกติ ซึ่งไฟล์ทนี้ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นคนเกาหลี แถวของเราเลยคนแอบน้อยกว่า ผ่าน ตม. ออกมาแล้ว แต่กระเป๋าเดินทางยังไม่ออกมาเลย

พอได้กระเป๋าแล้ว ก็เดินออกมาซื้อตั๋วรถบัสไปเวนิส ลงปลายทางที่ Piazzale Roma ซึ่งเป็นจุดจอดรถบัสทั้งหมดที่ขับเข้ามาเกาะใหญ่เวนิส นั่งรถแปปๆ 20 นาทีก็ถึง ค่ารถ 8 ยูโร

เมื่อถึงเวนิสแล้ว ทุกคนที่นั่งรถบัสมาเวนิสจะต้องโดนรับน้องทุกคน โดนหนักโดนเบาแล้วแต่สัมภาระกระเป๋าเดินทางที่แบกมา การรับน้องที่ว่านั้นก็คือ การแบกกระเป๋าเดินขึ้นบันไดข้ามสะพานขนาดใหญ่ ใครเอามามากก็เหนื่อยมาก ถ้าใครไม่อยากข้ามสะพานนี้ก็แนะนำให้นั่งเรือจากสนามบินมาเลยก็สะดวกดีเหมือนกัน มีเรือเมล์ราคาไม่แพง แต่ใช้เวลานานเกือบ ชม. ถ้ามีเงินเยอะก็นั่งแท็กซี่โบ๊ทแบบแองเจลินา โจลีในหนังเลย แบบนี้เร็วสุด 20 นาที ส่งถึงหน้าโรงแรมเลย (ถ้าโรงแรมมีท่าเรือนะ หรือท่าเรือใกล้ๆ) ถ้ามาหลายๆ คน ก็น่านั่งอยู่นะ หารกันแล้วน่าจะไม่แพงมาก เร็วด้วย ได้ชมวิวด้วย ได้ล่องเรือซึมซับบรรยากาศแม่น้ำที่มีความเป็นเวนิส

หลังจากเราผ่านการรับน้อง แบกกระเป๋าเดินทางข้ามสะพานมาแล้ว เราก็ถึงเวนิสแบบจริงๆ จังๆ สักที บรรยากาศดี สวยงาม จนหายเหนื่อย เราก็ลากกระเป๋าต่อไปที่โรงแรม เราเลือกพักโรงแรมใกล้ๆ สถานี Santa Lucia เพราะเราต้องนั่งรถไฟจากสถานีนี้ไปมิลาน ซึ่งโรงแรมที่เราเลือกพักครั้งนี้ก็คือโรงแรม AMADEUS อยู่ใกล้ๆ สถานีเลย

(ดูรีวิวโรงแรม Amadeus ได้จากที่นี้)

หลังจากเช็คอิน เก็บของ อาบน้ำ (จากบ้านถึงโรงแรมที่เวนิส ไม่ได้อาบน้ำมา 24 ชม. เต็มๆ) ตอนประมาณ 5 โมงเย็น เราก็ออกไปเดินเล่นกัน เราซื้อบัตร ACTV - 1 day Ticket (24 hours) ใช้ได้ 24 ชม. นับตั้งแต่เวลาที่ใช้ครั้งแรก ส่วนวันนี้วันแรกแพลนก็ไม่มีไรมาก เดิน+นั่งเรือเมล์ชมเมืองไปเรื่อยๆ ตอนเย็นๆ หัวค่ำๆ ที่ฟ้ายังสว่างอยู่

มาดูบรรยากาศเวนิสตอนกลางคืนกันบ้าง พอ2-3 ทุ่ม ฟ้าก็มืดแล้ว เมืองเวนิสเมืองท่องเที่ยว คนเยอะมาก คึกคักมากจนดึกดื่น เดินเล่นได้สบายๆ ไม่น่าจะมีอันตรายใดๆ

เดินไปเดินมา เริ่มหิวแต่เหนื่อยแล้ว ขี้เกียจเดินไปหาร้านดังร้านแนะนำ เลยกินร้านใกล้ๆ โรงแรมนี้แหละ เลยสั่งพิซซาหน้าทะเล กับ Spritz ค็อกเทลสไตร์อิตาเลียน เหล้าแรงมากนะ แก้วเดียวเมาได้เลย กินเสร็จแล้วก็กลับโรงแรมไปนอน ได้นอนเตียงซักที หลังจากนั่งปวดร่างบนเครื่องมานานหลายสิบ ชม.

ตอนต่อไป หรือวันที่ 2 ของทริป เราจะไปเที่ยวเกาะ Murano + Burano แล้วก็ที่เที่ยวต่างๆ ในเกาะเวนิสกัน

• รีวิว ITALY 2018 EP.1 ชมเมือง VENICE ตอนเย็น + กลางคืน
• รีวิว ITALY 2018 EP.2 เกาะ BURANO + MURANO ｜ นั่งเรือ GONDOLA ｜ ที่เที่ยวต่างๆ ในเวนิส
• รีวิว ITALY 2018 EP.3 MILAN ｜ ปีนหลังคา DUOMO ｜ STARBUCKS ร้านแรกของอิตาลี
• รีวิว ITALY 2018 EP.4  ชมกลางคืนเมือง FLORENCE 
• รีวิว ITALY 2018 EP.5 หอเอน PISA ｜Cinque Terre
• รีวิว ITALY 2018 EP.6  ที่เที่ยวต่างๆ ใน FLORENCE ｜ DUOMO ｜ UFFIZI MUSEUM ｜ ETC.
• รีวิว ITALY 2018 EP.7 ROME ｜ น้ำพุ TREVI｜ กรุงโรมยามค่ำคืน
• รีวิว ITALY 2018 EP.8 VATICAN MUSEUM ｜Castel Sant'Angelo｜Spanish Steps
• รีวิว ITALY 2018 EP.9 Basilica di San Pietro｜COLOSSEUM｜
• รีวิว ITALY 2018 EP.10 Leonardo da Vinci–Fiumicino Airport ｜Tips+Update เที่ยวอิตาลี 2561